วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554

ญี่ปุ่น... อีกสักครั้ง


วันนี้ว่างจัด เลยจัดไป อัพเกี่ยวกับญี่ปุ่นมันทีเดียว 2 กระทู้ติดกันรวด ไม่ได้ผูกพันธ์อะไรมากนะ ไม่ได้มีเพื่อนคนญี่ปุ่น หรือคลั่งชาตินี้หรอก เกิดมานี่ก็ยังไม่เคยไปเยือนญี่ปุ่นเล้ย แต่นะ เราๆท่านๆก็สามารถ รู้สึกผูกพันธ์ มีสายใยกับประเทศนี้กันได้ เอาง่ายๆ การ์ตูนญี่ปุ่น ตัวดีเลย ทั้งหนังสือ ทั้งในทีวี เห็นมาแต่อ้อนแต่ออก เลิกเรียนตอนเด็กๆ ชอบม้ากก ดราก้อนบอลแซ่ด โงกุน หรือจะ โดเรม่อน อิคคิวซัง ชินจัง โคนันคุง สแลมดั๊ง เซเล่อมูล ฯลฯ มากมายชอบหลายเรื่อง หรือจะดนตรี หนัง แฟชั่น เครื่องสำอาง เทคโนโลยี ข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน ต้องมีที่มาจากญี่ปุ่นกันมั่งล่ะน่า อาหารญี่ปุ่นนี่ เดี้ยนก็ชอบนะ แต่ชอบประเภทราเมง ต้ม ปิ้ง ย่าง นึ่ง ทอด ซูชิบางหน้า ถ้าอะไรดิบๆนี่ก็ไม่ค่อยกล้ากิน

มะ มาเข้าเรื่อง จะขอยกเรื่องอาหารญี่ปุ่นละกัน อันว่าในเมืองโคราชบ้างเอ๋ง (ออกเสียงแบบโคราชนะ มะใช่ เอ๋งๆ แบบภาษากลาง) มีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่หลายร้านเลยล่ะ ในห้างอย่างเดอะมอลล์โคราช ก็มีร้านเฟรนไชน์ดังๆ อย่าง ฟูจิ, ชาบูชิ, ยาโยอิ, โออิชิ, ฮาจิบัง เป็นต้น หรือจะร้านตั้งกันเอง ที่อยู่ในอำเภอเมืองก็มีหลายร้านอยู่ วันนี้เลยขอแนะนำ 1 ในร้านทำเองเหล่านั้น นี่เลย ร้าน "โทโมดาจิ" (แปลไทย = เพื่อน)

ไปลองชิมร้านนี้กับนังน้องสาว ตั้งตะปีที่แล้ว ร้านตั้งอยู่เส้นถนนมนัสฝั่งซ้ายก่อนถึงแยกที่ตัดกับถนนพลแสน (ใกล้ศาลเจ้าพ่อช้างเผือก) แยกนี้ ที่พอออกไปจะเจอโรงเรียนสุรนารีนั่นล่ะ เป็นร้านเล็กๆ น่ารักๆ ตกแต่งเรียบง่าย แต่ได้อารมณ์ญี่ปุ่น มีโต๊ะแบบนั่งพื้นและนั่งเก้าอี้ไว้บริการ เปิด 2 ช่วง คือ เช้า 11.00-14.00 น. กับ ตอนเย็นจำไม่ได้ว่า 5 โมงหรือ 6 โมงนี่ล่ะ ถึง 3 ทุ่มมั้ง มีหลายเมนูให้เลือกสรร ทั้งซูชิ ราเมง เส้นๆ ข้าวๆ สลัด ซุปต่างๆ รสชาดใช้ได้ อร่อย แต่ไม่ถึงแบบอร่อยสุโก้ยขั้นเทพ เมพขิงๆนะ อร่อยแนวๆคนไทย จานก็ใหญ่ดี ราคาไม่แพงมากด้วย โอเคเลย วันนั้นกินไป 4 อย่าง 2 คน อิ่มแทบแบกพุง กินไม่หมดกันด้วย ค่าเสียหาย 320 บาท ถูกกว่าฟูจิ มว๊ากก พอแกล้มๆได้บรรยากาศในความเป็นญี่ปุ่น และคนญี่ปุ่น ไปดูหน้าตาตามรูปปลากรอบด้านล่างกันเลย ขออภัยนางแบบ ที่หน้ามันไม่ค่อยจาให้ด้วยจ้า

ขอจบเอนทรี่นี้ ด้วยความเป็นห่วงกับสิ่งที่คนญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่น กำลังเผชิญ เดี้ยนคนไทย ภูมิภาคเอเชียเดียวกันขอส่งแรงใจให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้นะจ๊ะ

ปอลอ. เขาว่า ญี่ปุ่น ไม่ได้ต้องการเงินบริจาค ในรูปแบบเงินจากใคร ประเทศไหนเลยนะ เพราะบ้านเขาไม่เดือดร้อนเรื่องเงินอยู่แล้ว เรียกได้ว่า พิมพ์ออกมาใหม่ แจกไปใช้กันได้ชิวๆ แต่กระนั้น ถ้าอยากช่วย จะขอช่วยเป็นเงินก็ยังได้อยู่ คนหรือหน่วยงานที่รวบรวม เขาจะไปซื้อของแล้วให้เป็นสิ่งของอะไรก็ว่ากันไปอีกที เขาคงรับไว้แน่นอน หรืออีกแนวคิด คือ จะถือโอกาสไปบริจาคผ่านมูลนิธิอื่นๆ อะไรก็ได้ ที่ไม่เกี่ยวกับภัยญี่ปุ่นครั้งนี้ และมอบเป็นกุศล ส่งแรงใจให้ชาวญี่ปุ่น อย่างนี้ก็ได้ แล้วแต่ท่านๆนะคะ (ว่าแต่ ใครจะมาอ่านตรูมั่งเนี่ย เอาเป็นว่าเขียนเองอ่านเองนี่ล่ะ อืม)